Select Page

เนื่องจากที่ผ่านมา มีผู้ปกครองและน้องๆ ติดต่อสอบถามเข้ามาจำนวนมากเกี่ยวกับรายละเอียดของทุนอาเซียน และในแต่ละปีก็จะมีคำถามที่คล้ายๆกัน วันนี้ทาง Preptitude จึงขอลงข้อมูลที่หลายๆ คนสงสัยมาไว้ที่เดียวกันนี้เลยค่ะ 

ทุนอาเซียนคืออะไร ต้องสอบแข่งกับประเทศอื่นๆมั้ย

ทุนอาเซียนหรือ  ASEAN Scholarships เป็นทุนการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์มอบให้กับนักเรียนในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยจะเป็นการคัดเลือกนักเรียนจากแต่ละประเทศโดยตรง ไม่ต้องนำผลสอบไปแข่งขับกับประเทศอื่นๆ เช่น นักเรียนทุนในไทย จะได้รับการคัดเลือกจากผู้สมัครในประเทศไทยเท่านั้น ในขณะที่นักเรียนทุนเวียดนาม ก็จะได้รับคัดเลือกจากผู้สมัครในเวียดนามเท่านั้นเช่นกัน

ผู้ได้ทุนจะได้ไปเรียนในโรงเรียนรัฐบาลที่สิงคโปร์ ซึงทางกระทรวงศึกษาธิการจะเป็นผู้จัดสรรโรงเรียนให้แต่ละคนเอง

มีทุนให้แต่ละปีเยอะแค่ไหน

ทางรัฐบาลสิงคโปร์จะไม่มีการแจ้งว่าในแต่ละปีมีทุนให้กี่ที่ ตามปกติแล้ว เราจะรู้ว่าในปีนั้นๆ มีนักเรียนได้รับทุนกี่คน ก็ต่อเมื่อมีการประกาศผลเรียบร้อยและนักเรียนจะทราบจำนวนเพื่อนๆที่ได้ไปพร้อมกันในปีนั้นๆเอง  ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา จำนวนผู้ได้ทุนค่อนข้างหลากหลาย โดยมีน้อยที่สุดคือ 1 คน และมากที่สุดคือ 7 คน 

ทุกคนจะมีสิทธิ์ได้เข้าสอบมั้ย

ความท้าทายของการสมัครทุนอาเซียนอันดับแรกก็คือ ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้เข้าสอบ และการคัดเลือกจะคัดผ่านใบสมัครที่กรอกออนไลน์เท่านั้น  โดยบางปี อาจมีผู้ส่งใบสมัครมากถึง 400 -500 คน แต่มีผู้ได้รับคัดสอบเพียง 45-50 คนเท่านั้น และจากจำนวนผู้ได้เข้าสอบ ก็จะคัดจากผลสอบและ interview อีกทีนึง

ต้องกรอกใบสมัครอย่างไร ถึงจะได้เข้าสอบ

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตอบยากมากๆ แต่คำแนะนำโดยรวมคือ เนื่องจากนักเรียนทุนจะมีความคาดหวังด้านผลการเรียนค่อนข้างสูง รวมถึงความสามารถทางกิจกรรมอื่นๆ  ผู้สนใจสมัครทุนจึงควรหาโอกาสสร้าง profile ทั้งในเรื่องการเข้าอบรม แข่งขัน ประกวดด้านวิชาการต่าง โดยเฉพาะกลุ่มวิชา เลข อังกฤษ วิทยาศาสตร์ และระยะหลังเราเริ่มเห็นเทรนด์เกี่ยวกับ ICT  นอกจากนี้ ยังควรมีกิจกรรมเสริมทักษะที่แสดงศักยภาพด้านอื่นๆ เช่น ภาวะความเป็นผู้นำ ความสามารถด้านกีฬา ศิลปะ ดนตรี การมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม หรือกิจกรรมจิตอาสาต่างๆ 

สิ่งที่สำคัญก็คือต้องเป็น profile ที่เกิดขึ้นในช่วง 2 ปีที่สมัครสอบ เช่น ผลงานต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วง ม.1- ม.2  เพราะเป็นเงื่อนไขที่ระบุไว้อย่างชัดเจนในคุณสมบัติผู้สมัคร (ไม่นับย้อนไปที่ประถมศึกษา แต่ช่วงป. 6 อาจจะพอได้ เพียงแต่ควรเป็นกิจกรรมที่เด่นจริงๆ เท่านั้น)

เข้าไปดูวิธีการกรอกใบสมัครทุนได้จากวีดีโอแนะนำที่จัดทำโดย PREPTITUDE  http://www.preptitude.com/?p=1449

ทุนให้ไปเรียนตอนชั้นไหน และอายุเท่าไหร่จึงจะสมัครทุนได้

ทุนสำหรับประเทศไทยมีเพียง 2 ชั้นปีเท่านั้นคือ ทุนไปเรียนต่อ Secondary 3 (ม.3) และทุนไปเรียนต่อ Pre- University 1 ( ชั้นม.5)

  • ทุนสำหรับ Secondary 3 คือทุนสำหรับไปเริ่มเรียนที่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่สิงคโปร์ และเป็นทุน 4 ปีจนจบ Junior College ปีที่ 2  หรือพูดง่ายๆ คือทุนไปเรียน ม.3 – ม.6 นั่นเอง  

          เกณฑ์อายุให้ดูปีเกิดของผู้สมัครในปีนั้น เช่นปี 2019 รับสมัครผู้ที่เกิดระหว่างปี 2003 – 2005 และจะต้องมีผลการเรียน 2 ชั้นปี คือ ม.1            + ม.2  หรือ ม.2 + ม.3 โดยเบื้องต้นต้องผ่านเกณฑ์ทั้งสองข้อนี้ จึงจะสมัครแล้วมีสิทธิ์ได้รับคัดเลือกเข้าสอบ

           การไปเรียนคือต้องไปเริ่มเรียนที่ระดับ ม.3 เลย โดยไม่เกี่ยวว่าเราเรียนจบม. 3 ที่ไทยมาแล้ว

  • ทุนสำหรับ Pre-U 1 คือทุนสำหรับไปเริ่มเรียนที่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่สิงคโปร์ หรือที่เรียกว่า Junior College และเป็นทุน 2  ปีจนจบ Junior College ปีที่ 2 หรือพูดง่ายๆ คือทุนไปเรียน ม.5 – ม.6 นั่นเอง  

          เกณฑ์อายุให้ดูปีเกิดของผู้สมัครในปีนั้น เช่นปี 2019 รับสมัครผู้ที่เกิดระหว่างปี 2001 – 2002 และจะต้องมีผลการเรียน 2 ชั้นปี คือ ม.3            + ม.4  หรือ ม.4 + ม.5 โดยเบื้องต้นต้องผ่านเกณฑ์ทั้งสองข้อนี้ จึงจะสมัครแล้วมีสิทธิ์ได้รับคัดเลือกเข้าสอบ

         การไปเรียนคือต้องไปเริ่มเรียนที่ระดับ ม.5 เลย (Junior College year1) โดยไม่เกี่ยวว่าเราเรียนจบม. 5 ที่ไทยมาแล้ว

อ่านรายละเอียดของการรับสมัครทุนปี 2019 และข้อมูลเกี่ยวกับทุน ปี 2019 ได้ที่นี่ http://www.preptitude.com/?p=1401

ถ้าได้คัดเข้าสอบปีนี้ แต่ไม่ได้ทุนจะยังสมัครปีหน้าอีกได้มั้ย

ยังสามารถสมัครทุนได้ทั้ง 2 ระดับชั้น โดยดูเกณฑ์อายุและวุฒิการศึกษาประกอบ โดยที่ผ่านมาก็มีน้องที่ได้รับคัดเลือกเข้าสอบอีก ทั้งกรณีสมัครสอบชั้นเดิม และสมัครสอบครั้งแรกชั้น Secondary 3 และไปสมัครอีกทีชั้น Pre- U1 

และที่ผ่านมามีคนที่ได้รับทุนจากการเข้าสอบครั้งที่ 2 จากการสมัครสอบชั้น Secondary 3 ซ้ำอีกรอบ 

ทุนนี้ครอบคลุมเรื่องอะไรบ้าง และต้องกลับมาใช้ทุนมั้ย

หลักๆแล้ว ทางรัฐบาลสิงคโปร์จะรับผิดชอบค่าเรียน และค่าหอพักให้ โดยกระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์จะเป็นผู้จัดสรรโรงเรียนและหอพักให้กับนักเรียนทุนเอง นอกจากนี้ก็จะออกค่าสอบที่เกี่ยวข้องให้ ค่าตั๋วเครื่องบินขาไปและขากลับ ค่ารักษาพยาบาลตามเงื่อนไขประกัน และมีเบี้ยเลี้ยงสำหรับใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการสอบวัดระดับเรียนจบ   ทั้งหมดนี้เป็นทุนให้เปล่า ไม่ต้องใช้ทุนให้กับรัฐบาลสิงคโปร์ 

อ่านรายละเอียดของการรับสมัครทุนปี 2019 และข้อมูลเกี่ยวกับทุน ได้ที่นี่ http://www.preptitude.com/?p=1401

แล้วทางบ้านต้องเตรียมเงินให้น้องเยอะแค่ไหน

เนื่องจาก ค่าใช้จ่ายหลักๆ ทางรัฐบาลรับผิดชอบให้หมดแล้ว จึงเหลือแค่ค่าใช้จ่ายส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนใช้จ่ายไม่เท่ากัน แต่โดยปกติเดือนละประมาณ 2-3 หมื่นบาทก็น่าจะพอ ถ้าไม่ฟุ่มเฟือย

ทุนนี้ มีให้ถึงมหาวิทยาลัยหรือเปล่า

ทุนนี้ เป็นทุนระดับโรงเรียนเท่านั้น หากต้องการทุนเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย จะต้องทำเรื่องสมัครเพิ่มเติมเองอีกที

เมื่อได้ทุนแล้ว จะได้ไปเรียนยังไง

สำหรับระดับ Secondary 3 นักเรียนจะต้องไปเลือกลงวิชาเรียนด้วย เช่นจะเลือกเรียน science ตัวไหนบ้าง หรือเรียบกลุ่ม humanity ตัวไหนบ้าง  โดยจะมีบางวิชาที่บังคับต้องลงเรียนอยู่แล้วเช่น Math และ English

สำหรับระดับ Pre- University 1  ก็จะต้องเลือกวิชาเรียนเองเหมือนกัน แต่จำนวนวิชาจะน้อยกว่า (เหลือเลือกเรียน 4 วิชา และวิชาบังคับอีก 2 วิชา)  วิชาที่ให้เลือกเรียนค่อนข้างหลากหลาย เช่น business economics history เป็นต้น

เข้าไปดูวีดีโอเรื่องระบบการศึกษาที่สิงคโปร์ได้ที่ https://www.facebook.com/Preptitude/videos/840385999396828/

ถ้าเรียนจบแล้ว จะไปเรียนที่ไหนต่อได้บ้าง

จริงๆ แล้ว certificate ที่ได้รับจากระบบการศึกษาสิงคโปร์  ( O-level และ A – level) เป็นวุฒิที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก จึงสามารถนำวุฒิจบ  A level ไปใช้ยื่นเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้ทั่วโลก เพียงแต่อาจจะต้องศึกษาเงื่อนไขและคุณสมบัติที่ สาขาและมหาวิทยาลัยนั้นๆ ต้องการด้วยตัวเองอีกที เพื่อจะได้เตรียมเอกสารได้ถูกต้อง 

การเป็นนักเรียนทุนกดดันมากมั้ย ถ้าเรียนไม่ไหว หรือเรียนไม่จบตามระยะเวลาทุนจะเป็นอย่างไร

ในการตอบรับเป็นนักเรียนทุน จะมีสัญญามาให้อ่านและเซ็นรับทราบถึงเงื่อนไขต่างๆ ในการคงสถานภาพนักเรียนทุน หรือสัดส่วนของทุน โดยใจความและเงื่อนไขในสัญญาอาจมีปรับเปลี่ยนไปแต่ละปีได้ แต่โดยรวมแล้ว นักเรียนทุนจะต้องรักษาระดับคะแนนให้ได้ตามที่ระบุไว้ และสำหรับนักเรียนทุน Secondary 3 เมื่อจบ Secondary 4 แล้วจะต้องสอบวัดระดับได้คะแนนตามเกณฑ์ และสามารถเข้าเรียนต่อ Junior College ได้ 

กรณีที่ผลการเรียนไม่เป็นไปตามเงื่อนไข ทางกระทรวงฯ มีสิทธิ์ระงับทุนได้ โดยขึ้นอยู่กับสัญญาของเราด้วยว่า เราจะต้องคืนเงินทั้งหมดที่ได้ชำระมาให้กับทางรัฐบาลด้วยหรือเปล่า  ทั้งนี้ ปกติในสัญญาจะมีระบุการชดใช้เงินคืนให้ แต่ในความเป็นจริง จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป 

ถ้าได้ทุนระดับ Secondary 3 แล้วแต่อยากเรียนต่อ Polytechnic หลังจบ O level ได้มั้ย

ตามเงื่อนไขของทุนแล้ว นักเรียนทุนจะต้องเข้าเรียนต่อในระดับ Junior College เท่านั้น หากไม่ตรงตามเงื่อนไข อาจถูกระงับหรือลดสิทธิ์ของการได้ทุนลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่สัญญาได้ระบุไว้

ปกตินักเรียนที่ได้ทุนต้องมาจากระบบ EP หรือโรงเรียนนานาชาติหรือเปล่า

จริงๆ แล้วไม่มีข้อได้เปรียบด้านหลักสูตรที่ชัดเจน เพราะในทุกๆปี จะมีนักเรียนที่มาจากหลักสูตรไทย EP  และนานาชาติได้รับคัดเลือกเข้าสอบเหมือนกัน  โดยหากนักเรียนมีการเตรียมพร้อมที่ดีทั้งในด้านความรู้และ profile ก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับคัดเลือกเป็นนักเรียนทุน

การคัดเลือกเข้าสอบกระจายโอกาสให้นักเรียนทั่วประเทศหรือเปล่า

เท่าที่สังเกตดู ก็จะพบว่าแต่ละปีมีนักเรียนจากจังหวัดต่างๆ ได้รับคัดเลือกเข้าสอบ (แม้สัดส่วนนักเรียนจากโรงเรียนในกรุงเทพฯจะเยอะกว่าที่อื่น)  ดังนั้น หลักๆ แล้ว การเตรียม profile เป็นสิ่งสำคัญ

เตรียมตัวสอบอย่างไรดี 

ทุนจะสอบแค่ 2 วิชาเท่านั้น คือ เลขและอังกฤษ (มี Aptitude Test อยู่ในช่วงการสอบเลข) และโจทย์เป็นภาษาอังกฤษ ดังนั้น ผู้ที่สนใจสอบทุนจึงควรคุ้นเคยกับการทำโจทย์ภาษาอังกฤษด้วย รวมถึงมีทักษะการเขียนแสดงวิธีทำ และสามารถเขียน essay ได้

เนื้อหาที่ออกสอบ จะอิงตามหลักสูตรมัธยมต้นของสิงคโปร์เป็นหลัก

ต้องเตรียมตัวสอบนานแค่ไหน

แต่ละคนใช้เวลาไม่เท่ากัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นฐานความรู้เป็นหลัก  บางคนอาจจะต้องมาเตรียมตัวเรียบเก็บเนื้อหาก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 1 ปี หรือบางคนสามารถเรียนทำโจทย์ได้เลยก่อนสอบ 3-4 เดือน

เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าเรามีความพร้อมสอบทุนแล้ว

อย่างแรกเลยคือ คุณสมบัติเบื้องต้นในเรื่องปีเกิดและผลการเรียนผ่านตามเกณฑ์  

ในส่วนของความรู้ในการสอบ สามารถลองหาแบบฝึกหัดของสิงคโปร์มาทำดู หรือเข้ามาทำเทสต์ประเมินกับศูนย์ Preptitude และ Krutoo Homeschool โดยรบกวนโทรนัดหมายล่วงหน้า

สอบสัมภาษณ์มีผลมากมั้ย

จริงๆ แล้วสอบสัมภาษณ์มักมีไว้เพื่อดูทัศนคติ บุคลิก และความพร้อมในตัวเด็กมากกว่า แต่สิ่งที่มีผลต่อการได้รับคัดเลือกหลักๆ มาจากคะแนนสอบ

 ได้ยินมาว่าทุนมีแบบ merit ที่ไม่ใช่ทุนเต็มจำนวนด้วย merit  คืออะไร

จริงๆแล้ว Merit ไม่ใช่ทุน แต่เป็น award หนึ่่งที่ให้สำหรับนักเรียนที่อาจจะยังไม่เข้าตาพอที่จะได้ทุน แต่ดูน่าสนใจ และผลสอบน่าจะอยู่ในเกณฑ์ดีพอที่จะเรียนในโรงเรียนรัฐบาลสิงคโปร์ได้  ซึ่ง merit award นี้คือการได้สิทธิ์ในการชำระค่าเรียนในอัตราที่ต่ำกว่าปกติ หรืออัตราเดียวกับ Permanent Resident ของสิงคโปร์นั่นเอง ค่าใช้จ่ายทั้งหมดทางผู้ปกครองเป็นคนรับผิดชอบเอง

แต่ เราไม่สามารถระบุได้ว่าเราจะขอเป็น merit เพราะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกระทรวงการศึกษาธิการสิงคโปร์โดยตรง  ในแต่ละปีอาจจะมีหรือไม่มี merit award ให้ก็ได้

ถ้าไม่ได้ทุน จะมีวิธีไปเรียนต่อโรงเรียนรัฐบาลที่สิงคโปร์ได้มั้ย

การไปเรียนโรงเรียนรัฐบาลสิงคโปร์สามารถไปได้ผ่านการสอบ AEIS โดยเป็นข้อสอบสำหรับคัดเลือกนักเรียนต่างชาติเข้าไปเรียนต่อที่โรงเรียนรัฐบาลของสิงคโปร์ โดยนอกจากเรื่องค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบเองแล้ว เรื่องอื่นๆ ในแง่การไปเรียนไม่มีความแตกต่างอะไรกับการได้ทุนไปเลย

ข้อดีของการสอบผ่าน AEIS คือสามารถเลือกไปสอบเข้าเรียนต่อได้ตั้งแต่ Primanry 2- 5 และ Secondary 1-3 และไม่มีแรงกดดันในเรื่องสัญญาหรือเงื่อนไขต่างๆ เหมือนกับนักเรียนทุน รวมถึงผู้สมัครสอบจะได้โอกาสไปสอบแน่ๆ 100%

อ่านเกี่ยวกับ AEIS ได้ที่นี่ http://www.preptitude.com/?p=226

ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่ทาง Preptitude ได้รวบรวมจากประสบการณ์ดูแลน้องๆ เพื่อไปสอบเรียนต่อโรงเรียนที่สิงคโปร์รวมถึงเตรียมความพร้อมให้น้องๆ ที่ต้องการสอบทุนมานานกว่า 7 ปี  หากต้องการสอบถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ Preptitude และ Krutoo Homeschool ค่ะ 

 

เรียบเรียงข้อมูลโดย ครูเจน